วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2551

หิ้วกล้องท่องพิพิธภัณฑ์สิงค์โปร์ (ต่อ)

สิงค์โปร์เท่าที่รู้จักเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาเนิ่นนาน(จริงแล้วเด็กช่างอย่างพวกเราจะมีคำว่าโตก ต่อท้ายชื่อสิงค์โปร์ หึหึ) ดูเผินๆแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีวัฒนธรรมอะไรให้มาอวดชาวโลก จนสามารถที่จะทำพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติสิงค์โปร์กับเค้าได้ เขียนแบบนี้อาจดูเหมือนจะไปสบประมาท ดูถูกดูแคลน หรืออีกนัยหนึ่งก็ไร้สติปัญญาไร้ความรู้เรื่องราวของชาติอื่นๆตามประสาเด็กช่าง ก็น่าจะเป็นประการหลังเช่นนั้นแล เหตุเพราะไม่เคยใส่ใจเรื่องใดๆนอกจากซื้อกล้อง ท่องเทค และในปีพศ.2534 ก็ได้ฝึกงานในห้องตัดต่อที่ทันสมัยที่สุดในขณะนั้นแล้ว (ดิสโกเทคในสมัยนั้นเป็นโต๊ะจีนปูด้วยผ้าแดง เก้าอี้ไม้หัวกลมไม่มีพนักพิง พอจะลุกขึ้นเต้นรำก็พับโต๊ะกลมลงตรงกลางแล้วลากไปพิงไว้ข้างผนัง ส่วนเบียร์ก็ไทเกอร์ถือคนละขวดยืนกอดขวดกันทั้งคืน จำสภาพได้ติดตามาจนทุกวันนี้ ส่วนห้องตัดต่อในสมัยนั้นเป็นระบบลิเนียคุมควบด้วย swither และ Editting controler เป็นระบบยูเมติคPAL )

Changi Skytrain Terminal 1 – ปี 2008


ซ้ายมือ Changi Skytrain Terminal 1 – ปี 1993 - ขวามือ Changi Skytrain Terminal 1 - ปี 2008

เมื่อกลับมาเยือนสิงค์โปร์อีกครั้งหนึ่งในปีพศ.2551นี้ก็พบว่า สิงค์โปร์มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไป บ้านเมืองไม่ได้สะอาดเหมือนเมื่อก่อน คนข้ามถนนโดยไม่รอสัญญาณไฟคนเดิน ผู้คนกล้ากอดจูบกันในที่สาธารณะ บาร์เบียร์ทอดแนวยาวไปตลอดสองริมฝั่งแม่น้ำเปิดบริการตลอดทั้งคืน มีเครื่องเล่นหวาดเสียวแหวกแนวผุดขึ้นท่ามกลางตึกระฟ้า แต่สิงค์โปร์ยังคงมีสิงห์โตพ่นน้ำตัวเดิม (แถมมีลูกสิงห์โตตัวเล็กๆยืนพ่นน้ำเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัว ถ้าไปปีหน้าอาจจะคลอดลูกเพิ่มขึ้นมาอีกก็ได้ )

ตึกทุเรียน และสวนสนุกริมทะเล
สนามบินมุมเดิมที่เคยถ่ายภาพไว้ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ยังมีพิพิธภัณฑ์เกิดขึ้นมากมายหลายแห่ง และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือการนำเอาสื่อมัลติมีเดียมากมายเข้ามาประยุกต์ใช้ในการนำเสนอได้อย่างแนบเนียนกลมกลืนกับวัตถุสิ่งของ เกิดความเพลิดเพลินในการกดๆจิ้มๆจอทัชสกรีน การถอดๆสวมๆหูฟัง และการมองหาปุ่มต่างๆที่จะสามารถเล่นกับมันได้ว่าอยู่ตรงไหนนะ มีอีกไหม กดไปแล้วจะมีอะไรเด้งดึ๋งไหม

เด็กสาวชาวญี่ปุ่นถ่ายภาพกับลูกสิงห์โตพ่นน้ำ ,ที่หันหลังให้สิงห์โตตัวใหญ่ -มุมฮิตที่ใครๆมาก็ต้องถ่ายภาพ

อ่านต่อ**สื่อมัลติมีเดียกับ Asian Civilisations Museum

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ดูภาพได้ที่
http://picasaweb.google.com/spycute