วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2551

สื่อมัลติมีเดียกับห้องจัดแสดงภาพถ่ายและภาพยนตร์

สื่อมัลติมีเดียกับห้องจัดแสดงภาพถ่ายและภาพยนตร์
Photography and Filming

เมื่อเราเข้าไปในห้องนี้จะพบภาพขยายขนาด20นิ้ว วางอยู่บนขาตั้งภาพโปร่งใส มีคำบรรยายภาพสั้นๆ บอกว่าใครเป็นใครในภาพ พอเราชะโงกตัวดูด้านล่างภาพนั้นก็จะพบทีวีจอแบน แบบทัสกรีน ให้เรา จิ้มนิ้วลงไปที่ใบหน้าคนที่เราต้องการดูประวัติของคนนั้นก็จะเล่าออกมาพร้อมภาพประกอบต่างๆ ที่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจดี
ภาพแรกเป็นภาพครอบครัวของชายชาวจีนที่แต่งงานกับหญิงสาวชาวอังกฤษ เรายืนดูวีดีโอฟังเนื่อเรื่องคร่าวๆ ก็จะป็นภาพที่กำลังสัมภาษณ์ผู้ชายจีน และผู้หญิงฝรั่งในภาพถ่าย ซึ่งขณะนี้แก่แล้ว เล่าเรื่องความหลังให้ฟังสลับกันไปมาทั้งสองคนเริ่มจากการเดินทางไปเรียนที่ลอนดอนของชายจีนและพบรักกันที่นั่น พ่อแม่กีดกันเนื่องจากต่างสีผิวต่างเชื้อชาติ แต่ทั้งสองคนก็แต่งงานกันและมีลูกมีหลานหลายคนดังในภาพถ่ายที่โชว์อยู่ด้านหน้า
อีกภาพหนึ่งเป็นภาพหญิงสาวชาวญี่ปุ่น 2 คน เป็นภาพที่ได้มาจากร้านถ่ายภาพในสิงค์โปร์ เมื่อกดปุ่มดูวีดีโอ เรื่องก็จะเล่าแบบเศร้าด้วยตัวหนังสือขาวพื้นดำว่าเธอเป็นโสเภณีที่ตายอยู่ที่สิงค์โปร์ ไม่มีใครมารับศพกลับบ้านเกิด แล้วเรื่องก็จะเล่าย้อนไปสมัยสงครามโลก เธอมาขายตัวและเธอมาถ่ายภาพที่ร้านนี้ ภาพถ่ายของเธอเป็นภาพที่เธอสวมชุดกิโมโน ถ่ายกับเพื่อน
ของเธอ ช่วงนี้เป็นภาพเคลื่อนไหวโดยใช้ตัวแสดงที่หน้าคล้ายเธอและเพื่อนมาเล่นถ่ายเป็นภาพขาวดำทั้งเรื่องประมาณ 5 นาที ชอบไอเดียนี้จริงๆ (อันที่จริงสาวที่มาแสดงก็สวยพอจะเดินเข้าไปหา คิกๆๆ )

จากนั้นเราก็เดินเข้ามาในส่วนที่ 2 เป็นภาพถ่ายทั้งอัลบั้มวางไว้ให้ชมที่โต๊ะจัดเก้าอี้และที่นั่งดูภาพ (ค่อนข้างมืดเช่นเคย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าประหยัดไฟหรือต้องการบรรยายกาศแบบดิสโก้เทคเรียกร้องวัยรุ่นเข้าพิพิธภัณฑ์ กระทรวงวัฒนฯบ้านเราควรส่งช่างไฟไปศึกษานะ คิกๆ) ด้านหน้าปกอัลบั้มก็จะบอกว่า คนในอัลบั้มนี้เป็นใคร
ทำไมถึงเลือกมานำเสนอ ปัจจุบันคนนี้มีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วและลูกหลานเป็นใคร ได้จากการบริจาคมาอย่างไร สำคัญสำหรับความเป็นภาพถ่ายในสิงค์โปร์อย่างไร (อันนี้กระมังที่เป็นจุดเด่นทำให้อยากรู้ว่าทำไมต้องคนนี้)


สื่อมัลติมีเดียกับห้องภาพยนตร์
ห้องนี้จะฉายภาพยนตร์ ด้วยจอประมาณ300นิ้ว ตั้งเรียงกัน 3 จอ มีเก้าอี้ให้นั่งชม ภาพที่ฉายทั้งสามจอสัมพันธ์กัน คล้ายๆกับการทำสไลด์มัลติวิชั่น คือ เมื่อภาพจอที่ 1 ฉายคนกำลังยกปืนขึ้นยิง ภาพจอที่ 2 จะเป็นภาพคนโดนยิง และจอที่ 3 จะเป็นภาพคนตกใจ ไม่มีเสียงบรรยายแต่เป็นเสียงเพลงประกอบฉากต่างๆ และเสียงเอฟเฟค




มีทั้งฉากรัก ฉากบู๊ ฉากผี ดนตรีก็จะเปลี่ยนไปตามฉากเสียงเอฟเฟคก็จะเปลี่ยนไปตามเหตุการณ์ จุดเด่นค่อภาพทั้งสามจอสัมพันธ์กัน แม้ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหวก็ตาม คนสามารถวิ่งข้ามจอฉายที่ 1 ไปถึงจอฉายที่ 3 ได้
ไอเดียแบบนี้ กิ๊บเก๋ดีไม่น้อย



เมื่อเดินผ่านจอฉายมาทางด้านหลังก็จะเห็นเครื่องฉายภาพยนตร์เก่า
แผ่นเสียง ที่จัดวางในตู้โชว์เมื่อกดปุ่มสวมหูฟังก็จะได้ยินเสียงเพลงนั้นๆ
มีหน้าจอทัสกรีนบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของภาพยนตร์ในสิงค์โปร์อย่างคร่าวๆ สามารถเลือกจิ้มหน้าจอตามหมวดหมู่ที่ต้องการอ่านและฟังได้

สื่อมัลติมีเดียกับห้องแฟชั่น
Fashion-Shopping for Identity

เริ่มจากการจัดแสดงเสื้อผ้าของจักรพรรดิ์จีน ชุดของราชวงค์ที่เกี่ยวข้องและมีความสัมพันธ์กับสิงคโปร์ แล้วก็จะมีชุดส่าหรีแบบต่างๆ หลายยุคสมัย มีการออกแบบเสื้อผ้าทั้งชายและหญิง การพัฒนา และวิวัฒนาการ มีประวัตินักออกแบบและผลงาน


เมื่อเดินเข้ามาก็มองเห็นวีดีโอที่ฉายบนจอ และตู้จัดแสดงเสื้อผ้า

ที่นั่งชมนะนี่..โรแมนติกซะจริ๊ง นั่งได้ช่องละ 2 คนพอดิบพอดี สีสันบรรยายกาศสลัวๆ

เมื่อเดินเข้ามาในหมวดหมู่ที่สอง ก็จะเป็นสื่อมัลติมีเดียมีจอฉายภาพ 2 จอ มีที่นั่งและหูฟัง มีแท่นวางเครื่องเล่นที่สามารถ กดปุ่มเลือกฟังได้ ขณะที่ตาก็จะมองเห็นวีดีโอที่ฉายวนเวียนไปมาเบื้องหน้าเนื้อเรื่องก็จะเป็นภาพเกี่ยวกับแฟชั่นในแต่ละสมัย จนมาถึงปัจจุบัน ที่นั่งดูมืดมาก มีแสงส่องลงมาเฉพาะตรงแท่นที่เราจะกดห้องนี้แต่งแสงสีออกโทนแดง สลัวๆ
แทบทุกห้องจะใช้จอทัสกรีน ภาพวีดีโอ เสียงจากเทป เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอ สื่อต่างๆเหล่านี้ มีการนำเสนอด้วยลูกเล่นแบบมัลติวิชั่น และผู้ชมสามารถเลือกที่จะชมในหัวเรื่องที่สนใจ คำบรรยายสั้นกระชับได้ใจความ เสียงคำบรรยายชัดเจน สามารถฟังซ้ำได้หลายครั้งถ้าไม่เข้าใจ ก็ยังมีตัวอักษรให้อ่านประกอบ

การจัดแสงจะเน้นไปทางมืดสลัว นั่นอาจเป็นเพราะ เมื่อมีการนำสื่อวีดีโอเข้ามาประกอบแล้วจะต้องควบคุมแสงให้ได้โดยเฉลี่ยเท่าๆกันทั่วทั้งห้อง เพื่อความชัดเจนและสบายตา ในขณะที่ชม
(ดังนั้นก่อนจะเข้าหรือออกจากห้องจัดแสดงควรหลับตาและหยุดนิ่งสัก 30 วินาที ถือเป็นการทำสมาธิก่อนเห็นของจริง)

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ดูภาพได้ที่
http://picasaweb.google.com/spycute